คาเฟอีน ภัยเงียบใกล้ตัว

โทษของคาเฟอีน ภัยเงียบใกล้ตัว    

ขอบคุณรูปจาก Google

ในยุคนี้กาแฟถือได้ว่าเป็นเครื่องดื่มในดวงใจของใครหลายคน โดยเฉพาะหนุ่มสาวสมัยใหม่ เนื่องด้วยเทรนด์การดูแลสุขภาพตัวเองกำลังมา ผู้คนส่วนใหญ่จึงหันมาสนใจกาแฟ รวมถึงการทำกาแฟมากยิ่งขึ้น การดื่มกาแฟแบบที่ไม่ใส่น้ำตาล หรือ นมเลย เป็นต้น

แต่ถึงแม้ว่าการดื่ม กาแฟแบบที่ไม่ใส่น้ำตาล และนมนั้นจะมีส่วนช่วยให้เราห่างใกล้จากโรคอ้วน และโรคเบาหวาน ที่คนไทยส่วนใหญ่ต้องเผชิญเพราะสาเหตุหลักมาจากการดื่มกาแฟสำเร็จรูปนั้นจะหมดไป แต่กาแฟก็ยังมีภัยร้ายที่ใครหลายคนลืมมันไปนั้นก็คือ “คาเฟอีน”

โดยก่อนหน้านี้นั้น ก่อนที่กาแฟจะเป็นที่นิยมมากเท่ากับปัจจุบันนี้ เคยมีเครื่องดื่มอีกชนิดหนึ่งที่เป็นที่นิยม และถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก ทั้งด้านของรสชาติความอร่อยสดชื่น และด้านของภัยร้ายต่อร่างกายต่างๆ มากมาย นั้นก็คือ น้ำอัดลม และในวันนี้เราจะพูดกันถึง คาเฟอีน ในเครื่องดื่มน้ำอัดลม และกาแฟกันว่าเครื่องดื่มชนิดไหน นั้นเป็นอันตรายน้อยที่สุดสำหรับเรา และเครื่องดื่ม 2 ชนิดนี้ต่างกันอย่างไร และถ้าหากใครชื่นชอบการดื่มเครื่องดื่มเหล่านี้เป็นชีวิตจิตใจอยู่แล้วละก็ เราควรจะดื่มแค่ไหนถึงจะเป็นปริมาณที่เหมาะสม

กาแฟ น้ำอัดลม และคาเฟอีน

ในกาแฟ และน้ำอัดลมนั้น มีคาเฟอีนอยู่เป็นจำนวนมาก ถึงแม้ว่าปริมาณคาเฟอีนในกาแฟจะมีมากกว่า น้ำอัดลม แต่ผลเสียจากการดื่มน้ำอัดลมนั้นมีมากกว่าการดื่มกาแฟเป็นอย่างมาก ซึ่งหากเทียบกันแล้วนั้น กาแฟ มีปริมาณคาเฟอีนสูงถึง 200 มิลลิกรัม ต่อ 1 แก้ว ส่วนน้ำอัดลมนั้นมีปริมาณคาเฟอีนอยู่ที่ 45 มิลลิกรัม เมื่อเทียบกับน้ำอัดลม 1 กระป๋อง

ถึงแม้ว่าจะมองว่าในกาแฟ และน้ำอัดลมนั้นมีปริมาณคาเฟอีนไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าหากเรานำมาเทียบกับปริมาณคาเฟอีนปกติที่ร่างกายของคนเราควรจะได้รับนั้นถือว่าสูงพอสมควร จากข้อมูล และงานวิจัยต่างๆ มีรายงานออกมาว่า คนเราทั่วไปนั้นควรได้รับคาเฟอีนไม่เกินวันละ 200 มิลลิกรัม ซึ่งถ้าหากได้รับ คาเฟอีนมากเกินกว่าปริมาณที่กำหนดนี้นั้น อาจจะทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกาย หรือในบางกรณีเรียกว่า “ภาวะพิษคาเฟอีน” นั้นเอง

ภัยร้ายจาก คาเฟอีน

ขอบคุณรูปจาก Google

สำหรับ “ภาวะพิษคาเฟอีน” ที่พูดถึงไปนั้น บางคนที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟ ชา หรือน้ำอัดลม อาจจะเคยได้ประสบพบเจอแบบย่อมๆ มาแล้วก็เป็นไปได้ โดยอาการของภาวะนี้ก็คือ ร่างกายของเราจะกระสับกระส่าย อยู่นิ่งไม่ได้ มีอาการสับสนอยู่ตลอดเวลา เหมือนเวียนหัว หัวใจเต้นเร็ว และแรงจนเรารู้สึกเหมือนว่าจะระเบิดออกมา ไม่สบายท้อง เวียนท้อง ในบางกรณีนั้นอาจจะเกิดอาการของการควบคุมปัสสาวะตัวเองไม่ได้ และถ้าหากยังมีการเติมคาเฟอีน หรือได้รับเข้าไปเป็นจำนวนมากๆ ในคราวเดียว อาจส่งผลให้เสียชีวิตได้

แต่การดื่มกาแฟ ชา หรือน้ำอัดลมนั้น ก็เหมือนกับการมีแฟน เรารู้ว่ามันจะมีช่วงเวลาที่ทุกข์ แต่เราก็ยินดีที่จะเลือกมองแต่ความสุข ซึ่งใครที่ไม่ใช่สายดื่มชา กาแฟ หรือน้ำอัดลมอยู่แล้วนั้น อาจจะไม่เข้าใจกลุ่มของคนที่ดื่มเครื่องดื่มเหล่านี้อยู่ เพราะเมื่อรู้แล้วว่า คาเฟอีนนั้นไม่ดี จะเลือกดื่มไปทำไม และคำตอบของคำถามนี้ก็คือ การเสพติดคาเฟอีน อย่างไรละ

สภาวะของผู้เสพติด “คาเฟอีน”

ขอบคุณรูปจาก Google

เริ่มต้นของผู้ที่เข้าสู่วงการของการเสพติด “คาเฟอีน” นั้น ไม่ได้ติดคาเฟอีน 100% สิ่งที่ทำให้เกิดการเสพติดคาเฟอีนนั้นปัจจัยหลักมาจาก น้ำตาล ประเทศไทยเรามีภูมิภาคตั้งอยู่ในเขตร้อนชื้น ร่างกายของเรานั้นจะตอบสนองได้ดีกับความสดชื่นของเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลเป็นจำนวนมากๆ และหลังจากนั้นถึงจะเสพติดคาเฟอีนที่อยู่ในเครื่องดื่มเหล่านั้น

เมื่อเราได้ดื่มน้ำตาล และคาเฟอีน ส่วนประกอบทั้ง 2 ส่วนที่จะทำให้เรามีความสดชื่น ร่าเริงไปมากๆ เข้า วันหนึ่งร่างกายจะจดจำการซึมซับของเครื่องดื่มเหล่านั้น และจะเริ่มบอกกับเราว่า ปริมาณที่ได้อยู่ในตอนนี้นั้น เริ่มไม่พอต่อ 1 วันที่ต้องการแล้วนะ เมื่อถึงเวลานั้น ผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มชนิด ชา กาแฟ และน้ำอัดลมนั้น ก็จะเริ่มดื่มเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จาก 1 แก้วต่อวัน เป็น 2 แก้วต่อวัน จากนั้นก็เป็น 3 – 4 แก้วต่อวัน ร่างกายถึงจะกลับมาสดชื่นเหมือนกับช่วงเริ่มแรกที่ดื่มคาเฟอีนนั้นเอง ซึ่งปริมาณการดื่มต่อวันส่วนใหญ่นั้นจะไปจบลงที่สูงสุด 4 แก้วต่อวัน

การรักษาอาการติดคาเฟอีน ทำอย่างไรให้ดื่มน้อยลง

การดื่มชา กาแฟ หรือน้ำอัดลมนั้น ไม่ใช่เรื่องที่ผิด อ่านข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่เว็บ บาคาร่า แต่การดื่ม หรือการรับประทานอะไรเข้าไปอย่างใดอย่างเดียวเป็นจำนวนมากๆ นั้นย่อมส่งผลเสียต่อร่างกายเป็นที่แน่นอน และหากเราขาดคาเฟอีนไปในวันใดวันหนึ่ง ร่างกายเราจะรู้สึกง่วงซึม ไม่มีแรง อ่อนเพลียมากกว่าปกติ

โดยอาการเหล่านี้นั้นสามารถรักษา หรือป้องกันได้โดยการดื่มเครื่องดื่มเหล่านี้แบบพอประมาณ เช่น วันละไม่เกิน 2 แก้วต่อวันในวันที่รู้สึกง่วงซึมมากๆ และพยายามจำกัดให้ดื่มเพียงวันละ 1 แก้วต่อวัน ซึ่งหลังจากให้ลองลดปริมาณการดื่มลง หรือดื่มสลับวัน วันเว้นวันไปเรื่อย ๆ เพื่อลดความเสี่ยงของการเสพติดคาเฟอีนนั้นเอง

ประโยชน์ของคาเฟอีน

แต่ถึงแม้ว่าคาเฟอีนนั้นจะสามารถเป็นโทษต่อร่างกาย แต่คาเฟอีนก็มีส่วนช่วย ส่วนดีให้กับร่างกายได้มากมาย คาเฟอีนที่อยู่ในกาแฟนั้น สามารถช่วยให้สมองเราทำงานได้ดียิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มสมรรถภาพร่างกายให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น และนอกจากนี้คาเฟอีน ยังมีส่วนช่วยในระบบเผาผลาญให้กลับมาทำงานได้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้นอีกด้วย แต่ทั้งหมดนี้นั้นต้องอยู่ในข้อแม้ที่ว่า ต้องดื่มด้วยปริมาณที่พอเหมาะต่อร่างกายด้วยน้า