โรคอ้วน ถือเป็นสาเหตุหลักของโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ร่างกายต้องรับภาระต่างๆ มากมายถ้าหากเราเกิดสภาวะโรคอ้วน ซึ่งในปัจจุบันมีผลงานวิจัย และสถิติออกมาเปิดเผยว่า คนไทยในปี 2021 นี้ ต้องพบเจอกับปัญหาของโรคอ้วนมากถึง 20.8 ล้านคน โดยคิดเป็นผู้ชาย 6.8 ล้าน และพบว่าโรคอ้วนเกิดกับผู้หญิงมากถึง 14 ล้านคนเลยทีเดียว และด้วยเหตุนี้เอง วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม สาเหตุหลักของคนส่วนใหญ่ที่ต้องเผชิญกับสภาวะโรคอ้วน ซึ่งรู้หรือไม่ว่า พฤติกรรมแรกๆ ที่จะทำให้เราตกอยู่ในสภาวะของโรคอ้วนนั้นไม่ไช่การไม่ออกกำลังกาย เพราะการออกกำลังกายนั้น เป็นเพียงแค่กิจกรรมที่ช่วยให้เราสุขภาพดี และแข็งแรง แต่ถ้าเรารู้ว่าร่างกายของเราต้องการพลังงานเพียงเท่าไหร่ เราก็จะเลือกรับสารอาหารได้พอเหมาะกับร่างกาย
พฤติกรรม การใช้ชีวิตต่างๆ ของเรานั้นส่งผลให้เราอ้วนขึ้นได้โดยที่เราไม่รู้ตัว สื่อบันเทิง หรือการเป็นคนขี้เสียดายนั้นอาจจะไม่เหมาะกับพฤติกรรมการใช้ชีวิตของเรามากเท่าที่ควร ก็ทำยังไงได้ละ ก็เราไม่ใช่คนที่กินเท่าไหร่ก็ผมนี้ เพราะฉะนั้น วันนี้เราจะเจาะลึกพฤติกรรม ที่จะทำให้เราเข้าใกล้โรคอ้วนกันว่ามีอะไรบ้างที่เราควรจะปรับเปลี่ยน
Netflix ก็เพลิน Disney Plus ก็สนุก แล้วขนมจะขาดได้อย่างไร
แน่นอนว่า คนส่วนใหญ่ที่มี ปัญหาโรคอ้วนเกิดจาก การกินขนมจุกจิกระหว่างกับเสพสื่อบันทึกนั้นไง น้ำอัดลม ครัวซองต์ ขนมคบเคี้ยว ต่างๆ การที่เรากินขนมจุกจิกไปด้วยระหว่างการดูหนังนั้นรู้หรือไม่ว่า แค่ช่วงเวลาซีรี่ย์เพียงหนึ่งตอน สามารถทำให้เราได้รับสารอาหารมากถึง 700 แคลอรี่ เลยทีเดียว เพราะการรับชมสื่อบันเทิง เราจะเข้าถึงความสนุกของสื่อจนเราพลาดการยับหยั้งชั่งใจในช่วงเวลาที่รับหยิบขนมเข้าปาก คอแห้งเหรอ น้ำอัดลมหน่อยสิ
เวลาไม่พอ เลยต้องกินเร็วๆ รู้หรือไม่ว่า การกินเร็วๆ ก็ส่งผลให้เกิดโรคอ้วนได้นะ เพราะการรับประทานอาหารเร็วนั้นร่างกายของเราจะไม่ได้ซึมซับถึงสารอาหารที่เรารับประทาน เพราะเหตุนั้นร่างกายของเราจะไม่รับรู้ถึงความอิ่มนั้นเอง และนอกจากนี้ การค่อยๆ รับประทานอาหาร ค่อยๆ เคี้ยว นั้นจะช่วยให้เราลดภาระในส่วนการทำงานของกระเพาะอาหาร ทำให้กระเพาะอาหารย่อยอาหารได้ง่ายขึ้น เพราะร่างกายจะได้รับอาหารที่ชิ้นเล็กลง ทำให้ย่อยง่ายขึ้นนั้นเอง
ใครหลายคนคงเคยได้ยินคำนี้ใช่มั้ยะ วันนี้ฉันเครียดจังเลย ขอกินขนมหน่อย คำนี้ถือได้ว่าเป็นสาเหตุส่วนใหญ่ของคนที่จะเข้าสู่สภาวะอ้วนเลยก็ว่าได้ และการกินก็ไม่ได้ก็ไม่ได้ช่วยให้เราหายเครียดได้จริงๆ เพราะหลังจากที่เรากินเข้าไปแล้วนั้น หลังจากนั้นเราจะมาเครียดเรื่องที่น้ำหนักเราขึ้นมากกว่า เพราะฉะนั้นหากครั้งหน้าเราเครียดให้เราลองเปลี่ยนเป็นออกไปทำกิจกรรมอื่นดูบ้าง เช่น การออกเล่นเดินเล่น เดินออกไปนั่งดูต้นไม้ใบหญ้าจะช่วยทำให้หายเครียดได้มากกว่านะ เพราะสีเขียวจะช่วยให้สมองเราปลอดโปร่งยิ่งขึ้น
เพราะรางวัลนั้นคือขนมยังไงละ
แน่นอนว่าใครหลายคนอาจจะคุ้นชินกับการให้รางวัลตัวเองด้วยการกิน หรือขนม ผลสำรวจพบว่า ยิ่งใครที่อยู่ในช่วงของการลดน้ำหนักอยู่นั้น มักจะตั้งเป้าหมายของน้ำหนักที่จะลด และให้รางวัลกับตัวเองด้วยขนม หรืออาหารจานโปรดเมื่อน้ำหนักลงไปถึงจุดที่เราต้องการ การตั้งเป้าหมายแบบนี้นอกจากจะทำให้เราไม่สามารถลดน้ำหนักได้แล้ว เราจะยังโหยหาของกินอยู่เสมอๆ และจะรีบทำให้ได้ถึงจุดเป้าหมายที่ตั้งไว้ หลังจากนั้นเราก็จะกินเยอะขึ้นกว่าเดิม เพราะโหยหานั้นเอง
เหตุผลของความเสียดายนั้น ถือได้ว่าเป็นจุดกำเนิดของความอ้วนได้อย่างไม่ต้องสงสัย มีคนอยู่บางประเภทที่มักจะชอบเสียดายของกินที่ตัวเองนั้นกินไม่หมด และพยายามฝืนที่จะกินข้าวไปจนหมด การกระทำนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่รู้จักเสียดายของ อ่านข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่เว็บ บาคาร่า แต่นั้นไม่ส่งผลดีต่อร่างกายภายในอย่างแน่นอน
เพราะเมื่อเราอิ่มแล้ว เราพยายามที่จะกินเข้าไปมากกว่าเดิม กระเพาะที่มีหน้าที่กักเก็บอาหารไว้เพื่อรอย่อยนั้น จะขยายตัวขึ้นเรื่อย ๆ ตามปริมาณอาหารที่เรารับประทานเข้าไป และเมื่อวันหนึ่งเรารับประทานอาหารน้อยลงกระเพาะที่ขยายตัวใหญ่แล้ว ก็จะเรียกร้องขออาหารมากขึ้นกว่าเดิมนั้นเอง และวิธีการแก้ไขก็คือ การสั่งอาหารอย่างพอประมาณนั้นเอง
ด้วยพฤติกรรมทั้งหมดที่กล่าวไปนั้น เห็นมั้ยครับว่า ไม่มีข้อไหนเลยที่เกี่ยวข้องกับการออกกำลังกาย การออกกำลังกายสำหรับผู้ที่กำลังเข้าสู่โรคอ้วนนั้น เรียกได้ว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เพราะต้นเหตุนั้น คือการรับประทานอาหารเข้าไปในร่างกายนั้นเอง
และนอกจากนี้รู้หรือไม่ว่า การออกกำลังกายอย่างหนักเพื่อที่จะลดน้ำหนักนั้น กลับส่งผลให้เรารับประทานอาหารมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วยนะ เพราะการออกกำลังกายอย่างหนักนั้น ระบบเผาผลาญในร่างกายจะเรียกร้องให้เราเติมสารอาหารเข้าไปทดแทนส่วนที่เผาผลาญไป ซึ่งถ้าหากใครใจไม่แข็งพอบอกเลยว่า เติมเต็มถังแน่นอน เพราะฉะนั้นถ้าหากเราจะออกกำลังกายควบคู่ เราควรจะออกกำลังกายแบบเบาๆ แต่สม่ำเสมอจะดีกว่าจ้า