หลังจากที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ทั้งที่เป็นสายพันธุ์ดั่งเดิม และที่กลายพันธุ์แพร่ระบาดไปทั่วโลกกว่า 2 ปีมานี้นั้น เราได้พบเห็นข่าวกันป้องกันเชื้อไวรัสโควิดมากมายหลากหลายชนิด ทั้งเรื่องของการรับประทานสมุนไพร การไม่เข้ารับวัคซีน เพราะมีความเชื่อปลุกปั่นกันว่า วัคซีนทำให้คนติดเชื้อไวรัสโควิด ทั้งหมดนี้นั้นมีเรื่องที่เชื่อถือได้ และเชื่อถือไม่ได้ออกมามากมาย แต่หนึ่งในข่าวลือที่เราจะมาพูดกันในวันนี้ก็คือ การรับประทาน วิตามินช่วยต้านโควิด
วิตามินที่เรารู้จักกันนั้นก็มีอยู่หลากหลาย แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าวิตามินอะไรที่จะทำให้เราห่างไกลจากโรคโควิด โดยในวันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจให้ทุกคนได้รับรู้กันอย่างถูกหลัก ถูกต้องตามที่กรมอนามัยได้แจ้งออกมากัน และข้อเท็จจริง ผลการวิจัยในการใช้วิตามินป้องกันโควิด
เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2564 ทางกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้มีการออกมาเปิดเผยโดยมอบหมายให้ทาง นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย ผู้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมอนามัยในขณะนั้น ประกาศว่านอกเหนือจากการที่ประชาชนจะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย และการเว้นระยะห่างแล้ว การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายนั้น จะสามารถช่วยให้ร่างกายของเราห่างไกลจากการติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ได้เป็นอย่างดี
โดยสารอาหารที่ทางนายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย ได้แนะนำออกมาในครั้งนั้นก็คือ วิตามินดี ซึ่งการรับประทานวิตามินดีนั้นจะช่วยให้ร่างกายมีสุขภาพที่ดี แข็งแรง และห่างไกลจากโควิด 19
นอกจากนี้นายแพทย์สุวรรณชัยยังได้กล่าวต่อว่า การรับประทานวิตามินดี นั้น หากเรารับประทานมากเกินไปก็จะทำให้ร่างกายเป็นพิษได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นการรับประทานวิตามินดี ควรจะรับประทานแต่พอดี โดยในกลุ่มของเด็กทารก 6 – 12 เดือน ควรรับประทานเพียงแค่ 10 ไมโครกรัมต่อวันเท่านั้น และในช่วงวัย 1-70 ปี ควรรับประเพียงแค่ 15 ไมโครกรัมต่อวันเท่านั้น ซึ่งการรับประทานวิตามินดีที่พอดีนั้นจะทำให้ร่างกายห่างไกลจากการที่จะเกิดภาวะกระดูกอ่อนในเด็ก หรือกระดูกอ่อนในผู้ใหญ่ และนอกจากนี้ยังสามารถช่วยให้ห่างไกลจากฟันพุได้อีกด้วย
สำหรับอาหารที่ทางนายแพทย์สุวรรณชัย แนะนำให้เลือกรับประทานเพื่อให้ร่างกายของเราได้รับวิตามินดีนั้นก็คือ อาหารกในกลุ่มของปลา ยกตัวอย่างเช่น ปลาทับทิม ปลานิล ปลาตะเพียน หรือหากใครชื่นชอบการรับประทานปลาแซลมอนก็สามารถเลือกรับประทานปลาแซลมอนเพื่อสร้างวิตามินดีได้อีกด้วย นอกจากนี้แล้วในกลุ่มของปลากระป๋อง เช่น ปลาแมคคอแรล ปลาทูน่า ก็ยังสามารถสร้างวิตามินดีให้กับร่างกายได้อีกด้วย และถ้าหากใครที่ไม่ถนัดในการรับประทานปลาก็สามารถเลือกรับประทานเป็นอาหารกลุ่ม ไข่แดง นม เห็ด หรือ ตับ ก็ได้เช่นกัน
นอกเหนือจากนี้แล้วทางนายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย ยังได้แนะนำให้ประชาชนออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งในช่วง 08:00-10:00 น. เพื่อรับวิตามินดีจากแสงแดดในยามเช้าอีกด้วย ซึ่งถ้าหากเราไม่สะดวกเวลาเช้ายังมีเวลา 16:00-17:00 น. ให้เลือกอีกเวลาจ้า
ตอนนี้หากใครที่อ่านมาบทความที่นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย ได้แนะนำออกมาแล้วยังหาเหตุผลไม่ได้ว่าแล้ววิตามินดี สามารถช่วยเราได้ต่างกับวิตามินอื่นๆ อย่างไรละ ทำไมต้องวิตามินดี
เมื่อมาถึงตอนนี้เราต้องบอกเลยว่า หลังจากที่เราได้อ่าน และทำการค้นคว้าหาข้อมูลมาแล้วพบว่า ได้มีบทความของ BBC พูดถึงวิตามินดี ช่วยรักษาโควิด เป็นการพูดออกมาในเชิงของแนวความคิดนี้นั้น เป็นแนวความคิดรูปแบบของทฤษฎีสมคบคิด เนื่องจากในช่วงการคิดค้นหาตัวยารักษาโควิด 19 นั้น วิตามินดี ถือได้ว่าเป็นตัวเลือกหนึ่งที่เป็น 1 ใน 3 ของตัวเลือกในการนำมาใช้รักษาเชื้อไวรัสโควิด แต่แล้ววิตามินดีนั้นก็ตกไปโดยไม่มีคำอธิบายใดๆ ออกมาเป็นเอกสารให้เราได้อ่านกัน
ซึ่งทำให้หลายๆ คนรวมทั้งกลุ่มของนักวิจัย และนักวิทยาศาสตร์บางส่วนออกมาให้ความคิดเห็นว่า สิ่งที่ทำให้วิตามินดี นั้นตกไปเพราะการที่วิตามินดีสามารถหาได้ตามธรรมชาติ จึงไม่มีแหล่งเงินทุนเหมือนกับคู่แข่งที่ผ่านการคิดค้นขึ้นมาใหม่โดยมนุษย์อีก 2 ตัวเลือก และผู้ที่ประกาศปัดตกไปนั้นก็คือ WHO หรือ องค์การอนามัยโลก นั้นเอง
มหาวิทยาลัยบาร์เซโลนา ประเทศสเปน ได้ออกมาเปิดเผยถึงผลการศึกษาเรื่องของการนำวิตามินดีมาช่วยในการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด 19 พบว่า วิตามินดีนั้นสามารถทำให้ช่วยบรรเทาอาการของผู้ป่วยที่มีอาการหนักได้ถึง 80% และนอกจากนี้ยังช่วยลดอัตราการเสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ได้ถึง 60%
ทั้งนี้ด้วยความที่วิตามินดี สามารถหารับประทานได้ตามธรรมชาติ จึงทำให้กระทบกับกลุ่มนายทุน หรือความไม่ปลอดภัยในข่าวสารนี้ทำให้มีนักวิจัยทางการแพทย์หลายๆ สถาบันออกมาโต้แย้ง และทางวารสารหลายๆ อ่านข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่เว็บ สล็อต สำนักต้องทำการถอนเอกสารนี้ทิ้ง โดยอ้างถึงอันตรายที่จะทำให้ผู้ได้รับข่าวนี้เข้าใจข่าวผิด และหลังจากที่ประกาศการตรวจสอบเอกสารไปนั้น จนขณะนี้เราก็ยังไม่ได้รับข้อมูลอัปเดทความคืบหน้านี้อีกเลย