คาสิโนออนไลน์
สล็อตเกม
เกมยิงปลา
เกมต่อสู้
อาเขต
เกมโต๊ะ
วิธีแก้โยโย่ง่าย ๆ จากการลดน้ำหนัก
ทริคแก้เอฟเฟกต์ โยโย่ ง่ายๆ จากการลดน้ำหนัก
ขอบคุณรูปจาก Google
ลดน้ำหนักแล้วไง ทำไมน้ำหนักยังขึ้นอยู่อีก กินน้อยลงแล้วนะทำไปน้ำหนักขึ้นเอาขึ้นเอา ลดลง 2 กิโล ขึ้นมา 5 กิโล ทำไมกัน!! วันนี้เราจะมาไขความลับ ข้อสงสัยของใครหลายคนที่กำลังตั้งคำถามกับการลดน้ำหนัก หรือกำลังเริ่มที่จะถอดใจกับการลดน้ำหนักอยู่ในตอนนี้จากปัญหาของการลดน้ำหนักเท่าไหร่ น้ำหนักดันกลับมาขึ้นเยอะกว่าเดิม ซึ่งอาการนี้นั้น มีคำเรียกอย่างเป็นทางการว่า “โยโย่ เอฟเฟกต์” (Yo-Yo Effect) นั้นเอง
ปัญหาของโยโย่เอฟเฟกต์นั้นบอกเลยว่าเป็นปัญหาของผู้ที่เริ่มต้นลดน้ำหนักของใครหลายคนเป็นจำนวนมาก และการเกิด “โยโย่ เอฟเฟกต์” นั้น นอกจากจะทำให้น้ำหนักกลับมาขึ้นมากกว่าเดิมแล้ว ยังเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของใครหลายคนอีกด้วย เพราะอาการของการเกิด “โยโย่ เอฟเฟกต์” นั้นจะทำให้ผู้ที่ลดน้ำหนักสูญเสียความมั่นใจ และรู้สึกว่าจะลดไปทำไม ซึ่งหลังจากนี้เราจะมาแนะนำ ทริคแก้โยโย่เอฟเฟกต์ เพื่อที่เพื่อนๆ จะได้ไม่ต้องเจอกับปัญหานี้กันจ้า
“โยโย่ เอฟเฟกต์” คืออะไร
ขอบคุณรูปจาก Google
แต่ก่อนที่เราจะไปดูทริคการแก้ไขปัญหาของอาการ “โยโย่ เอฟเฟกต์” กัน เราต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า เจ้า “โยโย่ เอฟเฟกต์” นั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร มีกระบวนการการเกิดเอฟเฟกต์นี้อย่างไร กระบวนการการทำงานั้นเป็นอย่างไร และมีเงื่อนไขใดบ้างที่จะทำให้เกิด “โยโย่ เอฟเฟกต์”
“โยโย่ เอฟเฟกต์” หรือ Yo-Yo Effect เป็นคำที่ใช้เรียกสภาวะที่เกิดจากการลดน้ำหนัก แล้วน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นกว่าเดิม และในช่วงระยะเวลาของการลดน้ำหนัก น้ำหนักจะมีการขยับขึ้น และลงอยู่ตลอดเวลาแต่เมื่อผ่านเวลาไป 1-2 วันจะพบว่าน้ำหนักของเรานั้น เพิ่มมากขึ้นกว่าตอนที่เริ่มลดน้ำหนักนั้นเอง
ยกตัวอย่างอาการ “โยโย่ เอฟเฟกต์”
เริ่มลดน้ำหนักตอนที่น้ำหนัก 52 ในช่วง 1-2 วันแรกจะพบว่าน้ำหนักตัวเรานั้นลดลงไปที่ 51 หรือ 50 แต่พอเข้าวันที่ 3-4 จะพบว่าน้ำหนักกลับขึ้นมามากกว่าเดิม ครึ่งกิโล หรือเด้งกลับมาที่ 51.5 หรือ 50.5 และหลังจากนั้นน้ำหนักจะลดลงอีกครั้งในวันที่ 5-7 ซึ่งครั้งนี้อาจจะลงไปได้ที่ 49 แต่หลังจากนั้นน้ำหนักจะเด้งกลับมาที่ 52-53 นั้นเอง
สาเหตุจากการเกิดอาการ “โยโย่ เอฟเฟกต์
ขอบคุณรูปจาก Google
จากการสืบค้น หาข้อมูล และการวิจัยออกมาจากหลายๆ แหล่งนั้นพบว่า สาเหตุหลักของการที่ทำให้เกิด “โยโย่ เอฟเฟกต์” นั้นส่วนใหญ่มักจะเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการใช้ชีวิต และพฤติกรรมของการลดน้ำหนักที่ใกล้เคียงกัน นั้นก็คือ การลดน้ำหนักที่ไม่เป็นอย่างที่ควร พฤติกรรมการใช้ชีวิตในช่วงที่อยู่ในขั้นตอนของการลดน้ำหนัก และกิจกรรมที่ต้องเผชิญในช่วงเวลาของการลดน้ำหนักนั้นเอง ทั้งหมดนี้ถูกแบ่งออกมาเป็นหัวข้อหลักๆ ซึ่งเราจะมาแยกให้ทุกคนได้เห็นภาพชัดเจนดังนี้
- ลักษณะของการลดน้ำหนักที่ไม่ถูกต้อง
ในส่วนใหญ่ของผู้ที่ลดน้ำหนักแล้วเกิดอาการของ “โยโย่ เอฟเฟกต์” นั้นมักจะมาจากลักษณะของการลดน้ำหนักที่ไม่ถูกต้องนั้นเอง ซึ่งในส่วนนี้นั้นจะรวมถึงการออกกำลังกายร่วมด้วยเช่น
การลดน้ำหนักด้วยการรับประทานยาลดน้ำหนัก
การลดน้ำหนักด้วยวิธีการนี้นั้น เป็นสาเหตุแรกๆ ที่มักจะพบได้จากกลุ่มคนที่มีอาการ “โยโย่ เอฟเฟกต์” เพราะร่างกายจะจดจำรูปแบบของการเผาผลาญผ่านยาที่รับประทานเข้าไปอยู่ตลอดเวลา และเมื่อเราหยุดการรับประทานยา หรือรับประทานอาหารเสริม ร่างกายจะขาดตัวช่วยในการเผาผลาญนั้นไป และจะทำให้เกิดการเผาผลาญได้น้อยลงเพราะความเคยชินของร่างกายที่มีตัวช่วยตลอดเวลา อ่านข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่เว็บ บาคาร่า จึงทำให้เกิดอาการของ “โยโย่ เอฟเฟกต์” นั้นเอง
การลดน้ำหนักด้วยการออกกำลังกายที่หนัก หรือ หักโหมเกินไป
แน่นอนว่าการออกกำลังกายนั้นทำให้เราลดน้ำหนักลงไปได้จริง แต่หากเราออกกำลังกายอย่างหนัก หรือหักโหมเกินกว่าที่ควรจะเป็น จะทำให้ร่างกายต้องการสารอาหารเป็นจำนวนมากขึ้น ซึ่งในเวลานั้นร่างกายที่คุ้นชินกับการเผาผลาญอย่างหนักจะคอยกดให้สารอาหารที่รับประทานเข้าไปนั้นไม่ส่งผลต่อน้ำหนักตัว แต่เมื่อเราหยุดออกกำลังกาย ร่างกายจะขาดการเผาผลาญ น้ำหนักเราจะพุ่งสูงขึ้นจากการขาดการเผาผลาญนั้นเอง ซึ่งปัญหาหลักของการหยุดออกกำลังกายนั้นก็คือ การติดงาน หรือติดธุระติดต่อกันเป็นระยะเวลา 2-3 วัน
- ลักษณะของการใช้ชีวิต และการพักผ่อนในช่วงของการลดน้ำหนัก
รู้หรือไม่ว่าการนอนนั้นส่งผลตอนการลดน้ำหนัก เพราะยิ่งเรานอนดึกเท่าไหร่ ร่างกายจะปล่อยฮอร์โมนเลปติน ที่มีหน้าที่ในการความควบคุมความอิ่มออกมามากยิ่งขึ้น ทำให้เรารับประทานได้โดยที่ไม่รู้สึกอิ่มนั้นเอง และนอกจากนี้นั้นการเลือกรับประทานอาหารก็มีส่วนสำคัญ การรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูงนั้น จะมีส่วนช่วยให้ร่างกายเผาผลาญได้ดียิ่งขึ้นกว่าการรับประทานอาหารกลุ่มไขมัน และคาร์โบไฮเดรต นั้นเอง
ทริคการแก้อาการ “โยโย่ เอฟเฟกต์”
ถึงตอนนี้ใครหลายคนคงเริ่มมองออกถึงการแก้ไขอาการ “โยโย่ เอฟเฟกต์” ปัญหาหลักในการลดน้ำหนักของใครหลายคนกันแล้วใช่ไหมละ ซึ่งการแก้ไขง่ายนั้นก็คือ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพียงแค่ 45 นาทีต่อวัน ใช้การออกกำลังกายแบบง่ายๆ เช่นการเดินเร็ว แทนการวิ่งเพื่อให้เราสามารถทำได้ทุกวัน และยังสามารถนำกิจกรรมเสริมที่เราชอบไปทำร่วมด้วยได้เช่นการเล่นโทรศัพท์ หรือการเล่นเกม เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีอีกสิ่งที่สำคัญ และไม่ควรมองข้ามเลยนั้นก็คือ การนอนหลับให้เพียงพอ และการควบคุมรับประทานให้เหมาะสมกับร่างกายนั้นเองจ้า
